การปฏิบัติสำหรับกรณีฉุกเฉิน
- ตั้งสติให้ได้อย่าตกใจ
- ขอความช่วยเหลือ
- ปฐมพยาบาลเบื้องต้น
- ช่วยหายใจ ให้อากาศเข้าปอดสะดวก คลายเสื้อผ้าให้หลวม
- ห้ามเลือด
- นอนนิ่งๆ ห่มผ้า คอยสังเกตอาการ จับชีพจรเป็นระยะ
- ถ้ามีกระดูกหักอย่าเคลื่อนย้าย
- ห้ามรัปประทานสิ่งใด (ถ้าไฟลวกรุนแรงให้จิบน้ำคำเล็กๆ)
อุปกรณ์ปฐมพยาบาล |
อุปกรณ์ปฐมพยาบาล
- สำลี
- ผ้ากอซแผ่นชนิดฆ่าเชื้อ ทำความสะอาด (แอลกอฮอล์)
- คีมสำหรับบ่งเสี้ยน
- ผ้าสามเหลี่ยม
- ผ้ากอซพันแผลขนาดต่างๆ
- กรรไกรขนาดกลาง
- เข็มกลัดซ่อนปลาย
- แก้วล้างตา
- พลาสเตอร์ม้วน ชิ้น
- ผ้ายืดพันแก้เคล็ดขัดยอก ( Elsatic bandage)
- ผ้ากอซชุลพาราฟินสำหรับแผลไฟไหม้
ยาที่ควรมีไว้ในตู้ยาประจำบ้าน |
ยาที่ควรมีไว้ในตู้ยาประจำบ้าน
- ยาแก้ปวดลดไข้ : ยาเม็ดพาราเซตามอล 500 มก.
- ยาแก้แพ้,ลดน้ำมูก : ยาเม็ดคลอเฟนิรามีน 4 มก. ,2 มก.
- ยาแก้ปวดท้องท้องอืด ท้องเฟ้อ : ยาธาตุน้ำแดง ,ยาธาตุน้ำขาว , โซดามิ้นท์ , ขมิ้นชันแคปซูล
- ยาโรคกระเพาะ : ยาเม็ดอลูมินาเมกนีเซีย , ไตรซิลิเคท
- ยาแก้ท้องเสีย : ยาน้ำเคาลินเปคติน ผงน้ำตาลเกลือแร่
- ยาใส่แผล : ทิงเจอร์ใส่แผลสด , ไอโปดีน
- ยาล้างตา : โบริคโซลูชั่น
- ยาล้างแผล เช็ดแผล : ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ , แอลกอฮอล์เช็ดแผล
- ยาทาแก้แพ้แก้คัน : คาลาไมน์
- ยาทานวด : ขี้ผึ้งปวดบวม , ครีมระกำ , GPO บาล์ม
- ยาแก้ไอผู้ใหญ่ : ยาแก้ไอน้ำดำ , ยาขับเสมหะ
- ยาแก้ไอเด็ก : ยาแก้ไอขับเสมหะ , ยาแก้ไอเด็กเล็ก ,
- ยาระบาย : ยาระบายเม็กนีเซีย , มะขามแขก , ยาเม็ดมะขามแขก
- ยาสูดดม : เหล้าแอมโมเนีย
ความปลอดภัยสำหรับเด็ก |
ความปลอดภัยสำหรับเด็ก
- อย่าปล่อยทารกหรือเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบไว้กับสิ่งใดที่อุดตันทางเดินหายใจได้ เช่นถุงพลาสติก ให้เลือกของเล่นชิ้นใหญ่ ๆ ที่ใส่ปากไม่ได้
- อย่าให้หมอนกับทารกอายุต่ำกว่า 1 ปี
- อย่าทิ้งทารกไว้กับขวดนมหรืออาหารนมหรืออาหารตามลำพัง (เพราะอาจทำให้เด็กสำลักได้)
- ห้ามให้ถั่วลิสง ,น้อยหน่า, มะขาม แก่เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ
- อย่าปล่อยเด็กทารกไว้บนเตียงกับคุณนาน ๆ (เพราะอาจเผลอหลับทับเด็กได้)
- อย่าปล่อยเด็กหรือทารกไว้บนที่ยกสูงตามลำพัง
- รถหัดเดินควรมีฐานและล้อที่แข็งแร็ง
- อย่าปล่อยเด็กหรือทารกไว้บนเก้าฮี้สูงโดยไม่มีเครื่องรัดตัว
- อย่าให้เด็กสวมถุงหน้าเดินไปเดินมา
- อย่าวางแจกันแก้ว ,กาน้ำร้อนไว้บนโต๊ะเตี้ย หรือในระยะที่เด็กเอื้อมมือถึง
- หาที่ครอบปลั๊กไฟและสอนไม่ให้เล่นปลั๊กไฟ ,พัดลม เมื่อเด็กเรียนรู้และสอนจุดอันตรายต่างๆ ให้เด็กทราบ
- ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบข้ามถนนตามลำพังและจูงมือเด็กที่ต่ำกว่าอายุ 5 ขวบข้ามถนนเสมอ
- อย่าถือของร้อน ,ถ้วยกาแฟร้อน ๆ เหนือศรีษะเด็ก
- บ้านที่มีเด็กในวัยหัดเดินเตาะแตะ ไม่ควรใช้ผ้าปูโต๊ะที่มีชายให้เด็กดึงได้
บาดเจ็บที่ตา |
กรดหรือด่างเข้าตา
- อย่าขยี้ตา ,ล้างด้วยน้ำสะอาดมาก ๆ
- รีบไปพบแพทย์
ถูกของแหลมทิ่ม
- ให้นอนหลับตา
- ปิดตาด้วยผ้ากอซหรือผ้าเช็ดหน้า
- อย่าขยับสายตาไปมา
- รีบพบแพทย์ทันที
สิ่งแปลกปลอมเข้าตาขาว
- ขยี้ตาเบา ๆ กระพริบตา , ล้างตาหรือเงยสายตาขึ้นด้านบน
- ใช้มุมผ้าเช็ดหน้าเขี่ยผงออก
- ถ้าไม่ออก ไปพบแพทย์
ถูกกระแทกที่ดวงตา
- ประคบด้วยความเย็นทันที
- รีบไปพบแพทย์
กระดูกหัก |
กระดูกหัก
- วางอวัยวะส่วนนั้นบนแผ่นไม้หรือหนังสือหนา ๆ
- ใช้ผ้าพันยึดไม้ให้เคลื่อนไหว
- ถ้าเป็นปลายแขนหรือมือใช้ผ้าคล้องคอ
เลือดออก |
เลือดออก
- ใช้นิ้วกดบาดแผล ประมาณ 10 นาที หรือบีบเนื้อข้าง ๆ มาปิดแผล
- ใช้ผ้าหรือเน็คไท พันปิดแผลไว้ (อย่าให้แน่นจนชา)
- แผลที่แขน , ขาให้ยกสูง ถ้าเลือดไหลไม่ให้กดเส้นเลือดใหญ่ที่ไปเลี้ยงแขน ขา
ช็อค |
สาเหตุ
- โรคหัวใจกำเริบ ,บาดเจ็บรุนแรง , เลือดออกมาก ,ไฟไหม้น้ำร้อนลวก ,กระดูกหัก ,อาเจียน หรือท้องเสียรุนแรง
อาการ
- หนาวเย็น ,เหงื่อออก , เวียนศรีษะ , หายใจเร็วขึ้น ,ชีพจรเร็วแต่แผ่ว ,กลัว ,กระหาย
การปฐมพยาบาลการปฐมพยาบาล
- ให้นอนราบ ,ถ้าเลือดออกห้ามเลือด ,ห่มผ้า ,คลายเสื้อผ้า
- อย่าเคลื่อนไหวผู้ป่วย, ถ้าบาดเจ็บที่อก, ท้อง, ศรีษะ ให้หนุนศรีษะและบ่าให้สูงกว่าลำตัวเล็กน้อย คอยปลอบใจ
- ถ้ากระหายน้ำมาก ให้หยดน้ำที่ริมฝีปากนิด ๆ (ห้ามรัปประทานสิ่งใดๆ)
สำลักหรือมีสิ่งของไปอุดหลอดลม |
สำลักหรือมีสิ่งของไปอุดหลอดลม
- ทารก --ตบอย่างรวดเร็วกลางหลัง 4 ครั้ง ในท่าที่ศรีษะอยู่ต่ำกว่าปอด
- เด็กเล็ก ---ตบกลางหลังหนัก ๆ 4 ครั้ง ในท่าที่ศรีษะอยู่ต่ำกว่าปอด
- เด็กโตและผู้ใหญ่ --ตบหนัก ๆ และเร็ว ๆ กลางหลัง 4 ครั้งในท่าที่ศรีษะอยู่ต่ำกว่าปอด
ไฟฟ้าช็อต |
ไฟฟ้าช็อต
- รีบปิดสวิตซ์ไฟทันที
- ถ้าไม่สามารถปิดสวิทช์ไฟได้ ห้ามใช้มือจับต้องคนที่กำลังถูกไฟช็อตแล้วให้นำสิ่งที่ไม่นำไฟฟ้า เช่น ไม้กวาด ,เก้าฮีไม้ เขี่ยออกจากสายไฟ หรือเขี่ยสายไฟออกจากตัวผู้บาดเจ็บ
- เมื่อผู้ป่วยหลุดออกมาแล้ว รีบปฐมพยาบาล ถ้าหยุดหายใจ ให้ทำการเป่าปากช่วยหายใจ ถ้าคลำชีพจรไม่ได้ ให้นวดหัวใจด้วย แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลด้วย
สัตว์กัด |
สุนัขกัด
- ถ้าเลือดออก ห้ามเลือนทันที (ด้วยผ้าก็อซหรือบีบแผล)
- ล้างแผลด้วยน้ำสะอาด ปิดด้วยผ้าก็อซสะอาด
- รีบไปพบแพทย์ เพื่อฉีดวัคซีน
งูกัด
- ดูรอยแผล ถ้าเป็นงูพิษจะมีรอยเขี้ยว
- ใช้เชือกรัดหรือยาง หรือเข็มขัดรัดเหนือแผลให้แน่นพอควร
- ให้นอนนิ่ง ๆ คอยปลอบใจ
- ห้ามดื่มสุรา ,ยาดองเหล้า ,ยากล่อมประสาท
- ถ้าอยุดหายใจให้ช่วยหายใจทันที
- ควรนำงูไปพบแพทย์ด้วย
แมลงต่อย
- ถ้าถูกต่อยหายตัว หรือต่อยบริเวณหน้า ให้รีบไปพบแพทย์
- พยายามถอนเหล็กไน(โดยใช้หลอดกาแฟเล็ก ๆ แข็ง ๆ หรือปากกาครอบแล้วกดให้เหล็กในโผล่ แล้วดึงเหล็กไนออก)
- ใช้ยาแก้แพ้ทา หรือราดด้วยน้ำโซดา หรือประคบด้วยน้ำแข็ง (ปกติอาการบวมจะลดลงใน 1 วันถ้าไม่ลดให้พบแพทย์)
- ถ้ามีอาการปวด กินยาแก้ปวด (พาราเซตามอล)
ทากดูดเลือด |
- ห้ามดึง เพราะเลือดจะหยุดยาก
- จี้ทากด้วยบุหรี่ติดไฟ หรือไม่ขีดติดไฟให้ทากหลุด
- ล้างแผลให้สะอาด ใส่ทิงเจอร์แผลสด เบตาดีน
อาการแพ้พิษแมลงที่ต้องไปพบแพทย์ทันที |
- ช็อค เวียนศรีษะ ตัวซีด เหงื่อออก อาเจียน หายใจ ลำบาก ผื่นขึ้นที่ตา ตาบวม
โดนพิษสัตว์ทะเล |
โดนเงี่ยงปลาที่มีพิษ
- แช่น้ำร้อนพอทน(40'C หรือ 104 'F)นาน 4-5 นาที จะช่วยให้หายปวด
โดนแมงกระพรุนไฟ
- ใช้ทรายหรือผักบุงทะเลถูเมือกออก
- ล้างด้วยน้ำสบู่
- ทาด้วยน้ำปูนใส , แอมโมเนีย ,เพรดนิโซโลนครีม ,หรือเบตาเทธธาโซนครีม
ลมพิษ |
สาเหตุ
- โดนสารที่แพ้ ,พืช ,สารเคมี, แพ้อาหารทะเล ,เหล้า ,เบียร์ ,ละอองต่าง ๆ
การปฐมพยาบาล
- ทายาแก้ผดผื่นคัน ,คาลาไมน์ ,เพรดนิโซโลนครีม , เบตาเมทธาโซนครีม
- กินยาแก้แพ้ คลอเฟนนิรามีน ขนาด 4 มก. 1 เม็ด
- หาสาเหตุที่แพ้
- ถ้าผื่นไม่ยุบลง และเพิ่มมากขึ้นให้รีบไปพบแพทย์
เป็นลม
- ห้ามคนมุงดู พาเข้าที่ร่มในให้อยู่ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก
- คลายเสื้อผ้าออกให้หลวม
- จัดให้นอนตะแคงหน้าไปข้างใดข้างหนึ่งเพื่อป้องกันในเรื่องทางเดินหายใจอุดตัน โดยเฉพาะลิ้นของผู้ป่วยมักจะตกไปทางด้านหลังของลำคอ ทำให้หายใจไม่ออก
- ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าผากมือ และเท้า
- ถ้าอาการไม่ดีขึ้น รีบนำส่งโรงพยาบาล
เลือดกำเดาออก |
สาเหตุ
- จากการกระแทก , สั่งน้ำมูก , การแคะจมูก
สาเหตุ
- นั่งลง , ก้มศรีษะเล็กน้อย ,บีบจมูกนาน 10 นาที (หายใจทางปาก)
- วางน้ำแข็งหรือผ้าเย็น ๆบนสันจมูก หน้าผาก ใต้ขากรรไกร
- ถ้าไม่หยุด รีบไปพบแพทย์
เลือดออกไม่หยุดหลังจากการถอนฟัน |
- กัดผ้าก็อซชิ้นใหม่ซ้ำ ,อมน้ำแข็ง (ห้ามบ้วนน้ำหรือน้ำยาบ้วนปาก)
- ประคบน้ำแข็งนอกปาก
- ถ้ายังไม่หยุด ให้รีบไปพบแพทย์
ของเข้ารูจมูก |
- บีบจมูกข้างที่ไม่มีของ , สั่งข้างที่ไม่มีของแรง ๆ
- อย่าพยายามแคะออก
- ถ้าเป็นเด็กให้หันเหความสนใจจากจมูก ให้หายใจทางปาก
- พบแพทย์ทันที
หู |
หูอื้อ
- กรณีเป็นหูน้ำหนวกอยู่ ให้รีบรักษาให้หาย
- กรณีหูอื้อไม่ทราบสาเหตุ อาจจะมาจากการมีขี้หูมาก , ขึ้นหูเหนียว , ให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อดึงขึ้หูหรือดูดขึ้หูออก
ของเข้าหู
- ตะแคงศรีษะ หันหูข้างที่มีของเข้าไปลงให้หล่นออกมาเอง
- ถ้าไม่ออก ห้ามแคะ รีบไปพบแพทย์
แมลงเข้าหู
- พาไปในที่มืด ใช้ไฟฉายส่อง(ให้แมลงออกมาตามแสง)หรือหยอดด้วยน้ำมันหรือกลีเชอรีนบอแรกซ์ให้แมลงลอยออกมาแล้วจึงเขียออกหรือคีบออก ถ้าไม่ออกให้รีบไปพบแพทย์ทันที
คันในหู(เพราะเป็นเชื้อรา)
- ใช้ไม้พันสำลีชุบทิงเจอร์แผลสด ทำในรูหูวันละ 2-3 ครั้ง
หอบ-หืด |
- ให้ผู้ป่วยนั่งยืนในท่าเอนตัวไปข้างหน้า หลังและหน้าอกตรง
- คลายเสื้อผ้า ให้อากาศบริสุทธิ์ผ่านเข้าห้อง
- ปลอบมิให้ตกใจ ,วิตก ,กังวล
- ถ้าเป็นครั้งแรกรีบไปพบแพทย์ทันที
- กรณีผู้ป่วยพ่นยาหรือกินยาประจำ ให้รีบใช้ทันที
พุ-พอง |
- จากการเสียดสี ,ไฟไหม้ ,น้ำร้อนลวก ผิวหนังชั้นนอกออกจากชั้นในมีน้ำมาขังอยู่
คันในหู(เพราะเป็นเชื้อรา)
- ถ้าเป็นแผลเล็ก ไม่ต้องทำอะไร ปกติร่างกายจะดูดซึมน้ำกลับไปเองและผิวหนังชั้นนอกจะลอกตัวไปเอง
- ถ้าบริเวณที่พุพองขยายตัวกว้างขึ้นไปให้รีบไปพบแพทย์
ฟกซ้ำ ,หัวโน ,ห้อเลือด |
- ให้ประคบด้วยความเย็นให้เร็วที่สุด เพื่อลดอาการบวม ,เจ็บ หรือใช้มะนาวผสมดินสอพองพอกไว้ (ปกติรอบฟกซ้ำจะหายไปเอง)
- ถ้าเกิดอาการนานเกิน 24 ชั่วโมงใช้ประคบและคลึงด้วยผ้าชุบน้ำร้อนวันละ 2-3 ครั้ง
ไฟไหม้ ,น้ำร้อนลวก |
- ฉีกหรือตัดเสื้อผ้าบริเวณที่ถูกน้ำร้อนลวกออก
- เสื้อผ้าที่ไหม้ไฟและดับแล้ว ถ้าติดที่แผล ไม่ต้องดึงออก
- ถอดเครื่องประดับที่รัดอยู่ เช่นแหวน, เข็มขัด ,นาฬิกา ,รองเท้า ,(เพราะอาจจะบวมทำให้ถอดยาก)
- ทำให้บริเวณที่ถูกไฟไหม้น้ำร้อนลวกเย็นลงโดยเร็วที่สุด(ทำอย่างน้อย 10 นาที )
- ใช้ผ้าก็อซปราศจากเชื้อปิดแผล กรณีแผลใหญ่ ใช้ผ้าปิดพันด้วยผ้ายืดหลวม ๆ
ข้อเคล็ด |
- ให้บริเวณข้อนั้น ๆ อยู่นิ่ง ๆ และยกสูงไว้
- ประคบน้ำแข็งทันที เพื่อลดอาการบวม ,ปวด
- ถ้าภายหลังมีอาการบวมให้ประคบด้วยน้ำร้อน หรือนวดด้วยยาหม่อง หรือน้ำมันระกำ
- ถ้าปวดมาก บวมมากให้รีบปรึกษาแพทย์
การทำแผล |
การทำแผลทั่วไป
- ล้างมือให้สะอาด
- ทำแผลที่สะอาดก่อนแผลที่สกปรก
- เช็ดรอบแผลด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์(เช็ดจากในวนมาข้างนอกทางเดียว)
- ปิดด้วยผ้าก็อซหรือผ้าสะอาด
- อย่าให้ถูกน้ำอีก เพราะจะทำให้เป็นหนองหรือหายช้า
กรณีแผลถลอกทั่วไป
- ล้างด้วยน้อำ และสบู่ให้สิ่งสกปรกออกให้หมด
- เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ ทาทิงเจอร์แผลสดหรือเบตาดีน
- ไม่ต้องปิดแผล
กรณีแผลตื้นหรือมีดบาด(เลือดออกไม่มาก)
- บีบเลือดออกบ้าง
- ล้างด้วยน้ำสะอาด และสบู่
- ใส่ยาทิงเจอร์แผลสด หรือเบตาดีน
- ปิดแผลหรือให้ขอบแผลสมานติดกัน
กรณีแผลลึก ลึกถึงกระดูก หรือกระดูกโผล่
- ห้ามเลือดทันที
- ใช้ผ้าสะอาดคลุม ห้ามจับกระดูกยัดเข้าไป
- รีบพาไปพบแพทย์ทันที
กรณีแผลมีหนอง
- ล้างแผลด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซต์ หรือเดกิ้นโซลูชั่น ทุกวัน
- เช็ดด้วยสำลี
- รัปประทานยาปฏิชีวนะตามแพทย์ส่งให้ครบ
กรณีแผลตะปูตำ
- ล้างแผลให้สะอาดด้วยน้ำมาก ๆ
- ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ทำความสะอาดอีกครั้ง
- ปิดแผล ห้ามถูกน้ำ
- ฉีดยาป้องกันบาดทะยัก
- รัปประทานยาปฏิชีวนะตามแพทย์สั่งให้ครบ
กรณีแผลถูกแทงด้วยของแหลม ,มีด ,ไม้
- ตัดมีดหรือไม้ที่ถูกแทงให้สั้นลง เพื่อให้เดินทางไปพบแพทย์ได้สะดวก (ห้ามดึงออก)
- ให้อยู่นิ่ง ๆ
- รีบนำส่งโรงพยาบาล
อาการปวดท้องที่ควรไปพบแพทย์ทันที |
- ปวดท้องพร้อมอาเจียนเป็นเลือด
- เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ หรือคนชรา
- ปวดท้องเพราะถูกกระแทก ,ทุบ ,ตี หรือตกจากที่สูง
- ปวดนานหลายชั่วโมง
- ปวดมากจนนอนไม่หลับ
ท้องเดิน ,ท้องร่วง ,ท้องเสีย |
ในเด็กโตหรือผู้ใหญ่
- งดอาหารรสจัด ,และย่อยยาก เลือกกินอาหารเหลวกินจนกว่าอาการจะดีขึ้น
- ดื่มน้ำเกลือแร่หรือผสมเอง (เกลือ 1/2 ช้อนชา+น้ำ 1 ขวดแม่โขง)
- ดื่มน้ำชาแก่ ๆ
- ถ้าถ่ายรุนแรง มีอาเจียน อ่อนเพลียมาก หน้ามืดเป็นลม และอาการไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมงให้รีบไปพบแพทย์
ในเด็กเล็ก เด็กทารก
- งดนมและอาหาร ประมาณ 2-4 ชั่วโมง ดื่มน้ำเกลือแร่ (ทารกใช้เกลือ 1/2ช้อน+น้ำ 1ขวดแม่โขง)
- ถ้าเด็กหิวมากให้นมที่ชงจาง ๆ ทีละน้อย
- ถ้าถ่ายท้องรุนแรง ,อาเจียน ,ดื่มนมหรือน้ำไม่ได้ (ซึม ,ตาโบ๋ ,กระหม่อมบุ๋ม ,หายใจหอบแรง ,)และไม่ดีขึ้นใน 24 ชั่วโมงให้ไปพบแพทย์โดยด่วน
ท้องผูก |
ในเด็กโตหรือผู้ใหญ่
- ดื่มน้ำมาก ๆ กินอาหารพวกพัก ,ผลไม้ ,งดชา ,กาแฟ ,และออกกำลังกาย
- กินยาระบาย (ชามะขามแขก ,ยาระบายแมกนีเซียม)
- ถ้ามีอาการปวดท้องรุนแรง หรืออาเจียนรุนแรง ให้รีบไปพบแพทย์
ในเด็กเล็ก เด็กทารก
- ดื่มน้ำมาก ๆ ,น้ำส้มคั้น ,น้ำลูกพรุนต้ม หรือเปลียนนม
- ใช้กลีเซอร์รีนเหน็บก้น(ของเด็ก)
ก้างติดคอ |
ก้างติดคอ
- กลืนก้อนข้าวสุก หรือขนมปังนิ่ม ๆ
- ถ้ายังไม่หลุด กลืนน้ำส้มสายชูเจือจางเพื่อให้ก้างอ่อนลง
- ถ้าไม่หลุด ควรไปพบแพทย์
ตะคริว |
สาเหตุ
- ใช้กล้ามเนื้อมัดนั้นหนักเกินไป
- ความหนาวเย็น
- การสูญเสียน้ำและเกลือแร่(อาเจียน ,ท้องเสีย ,เหงื่อออก)
การปฐมพยาบาล
- ยืดกล้ามเนื้อส่วนนั้นออกโดย
- เป็นที่มือ : ยึดนิ้วมือ ดัดปลายนิ้ว
- เป็นที่เท้า : ยืดนิ้วเท้า ให้ยืนเขย่ง
- เป็นที่ต้นเท้า : นั่งลง , เหยียดเท้า ,กดที่หัวเข่าปละช่วยนวดเท้า
- เป็นที่น่อง : นั่งลง ,ยืดขา
- ถ้าเป็นเพราะเหงื่อ เสียน้ำให้ดื่มน้ำเกลือ(เกลือ 1 ช้อนชา ผลมน้ำ 1 ขวดแม่โขง)
กินยาพิษ |
ยาพิษที่มีฤทธิ์กัด
ตัวอย่าง : กรด , ยาฆ่าเชื้อ ,ยาขัดฟื้น ,น้ำยาล้างสี ,ผงขัดถู , แชมพู, แอลกอฮอล์ทาแผล ,ยางสน ,น้ำยาขัดเงา, ผงและน้ำยาซักล้าง ,โซดาซักล้าง, สีย้อม ,เนื้อไม้ , ผงซักฟอก ,ยางล้างห้องน้ำ
การปฐมพยาบาล
- มองหาภาขนะบรรจุยาพิษที่ตกอยู่ใกล้ผู้ป่วย นำไปโรงพยาบาลด้วย
- สังเกตุรอยไหม้บริเวณริมฝีปากและปาก
- เรียกรถพยาบาล
- ดื่มน้ำมาก ๆ (โดยให้จิบที่ละน้อย ) หรือน้ำสะอาด ถ้าหานมไม่ได้(นมจะช่วยให้พิษเจือจางลง)
- ห้ามทำให้อาเจียน ถ้าผู้ป่วยหมดสติ ห้ามกรอกน้ำหรือของเหลวเข้าปากผู้ป่วย ถ้าหยุดหายใจให้รีบช่วยหายใจ
ยาพิษที่ไม่มีฤทธิ์กัด
ตัวอย่าง : แอลกอฮอล์(เอทธิลแอลกอฮอล์) ,แอสไพริน ,ผลไม้ป่ามีพิษ , เห็ดพิษ ,ยาแผนปัจจุบัน
การปฐมพยาบาล
- มองหาภาขนะบรรจุยาพิษที่ตกอยู่ใกล้ผู้ป่วย นำไปโรงพยาบาลด้วย
- ถ้าทราบว่า เพิ่งรัปประทานยาเข้าไป พยายามทำให้อาเจียน ถ้าไม่ออกให้ดื่มน้ำมากๆ พยายามล้วงคอให้อาเจียน นำเศษอาเจียนไปให้แพทย์ดูด้วย (ถ้าทำได้)
- ถ้ากินยาพิษเข้าไประยะหนึ่งแล้ว อย่าทำให้อาเจียนเพราะพิษถูกดูดซึมภายหลัง
ถูกแก็สพิษ
ตัวอย่าง :คาร์บอนมอนออกไซด์
อาการ:ปวดศรีษะ ,สับสน , หายใจลำบาก ,อาจจะหมดสติ , ผิวหน้าจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ถ้าในขณะที่ได้รับแก็สเพิ่มขึ้น
การปฐมพยาบาล
- ให้ได้อากาศบริสุทธิ์เร็วและมากที่สุด(อาจจะเปิดหรือทุบกระจกประตูหน้าต่าง ๆ)
- คลายเสื้อผ้าให้หลวม ปฐมพยาบาลเหมือนคนช็อค(ห่มผ้าให้อบอุ่น)
- ถ้าหยุดหายใจ ให้รีบช่วยหายใจ
- ดูการหายใจและจับชีพจรอย่างใกล้ชิด
- เรียกรถพยาบาลทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น